“ร้านขนม” จุดประกายพายย่อส่วน ชูราคาทุกชิ้น 9 บาทพร้อมส่งฟรีถึงที่
ขึ้นชื่อว่าขนมในสมัยนี้ หลายคนคงนึกถึงความหอมหวาน และเอร็ดอร่อยเมื่อได้ลิ้มลอง แล้วยิ่งขึ้นชื่อว่า “ร้านขนม” ด้วยแล้ว คงไม่ต้องบอกว่าร้านนั้นจะเป็นร้านที่น่าเข้าไปลิ้มลองรสชาติของขนมเพียงใด แต่ “ร้านขนม” ที่ชื่อแสนจะเรียบง่าย และสื่อ ความหมายได้เป็นอย่างดี จะเน้นไปที่ขนมประเภทพายต่างๆ ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพสมราคา
นางสุวรรณา ชุนหศรี หรือชื่อที่ลูกค้ามักใช้เรียกขานคือ “คุณเจี๊ยบ” เจ้าของ “ร้านขนม” ได้เล่าถึงที่มาของธุรกิจที่สร้างเงิน ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำว่า จากเดิมทำงานนั่งโต๊ะในออฟฟิคทั่วๆ ไป แต่มีใจรักในเรื่องการทำอาหารและขนมจึงคิดออกมาทำ ความฝันให้เป็นจริง ซึ่งในช่วงแรกคิดจะทำร้านอาหาร แต่เนื่องจากมีคนทำกันเยอะ จึงคิดจะเปิดร้านเบเกอรี่ ซึ่งในช่วง 18 ปีที่แล้ว ร้านเบเกอรี่ยังมีไม่มากนัก โดยเริ่มจากการเช่าตึกแถวสุขุมวิท 71 ทำขนมปังขายเพียง 5 ไส้ที่เหมือนกับขนมปัง ตามท้องตลาด ซึ่งทำให้ธุรกิจเริ่มแย่ และท้อจนถึงขั้นจะหยุดความฝันไว้ตรงนั้น แต่โชคยังเข้าข้าง ด้วยความบังเอิญจากการ เดินผ่านตู้เบเกอรี่ของโรงแรมชื่อดังที่ได้ทำพายลักษณะกลมและมีขนาดเล็ก มีกุ้งวางไว้บนแป้งพาย จึงคิดจะนำมาดัดแปลง และคิดหาไส้ที่ยังไม่ค่อยมีตามท้องตลาด จึงเกิดมาเป็น “ค๊อกเทลกุ้ง” ที่ถือเป็นตัวชูโรงของร้านขนม และทำให้คุณสุวรรณา ประสบความสำเร็จและยืนหยัดบนเส้นทางของร้านเบเกอรี่อย่างงดงาม
“ขณะนี้ขนมของ “ร้านขนม” มีทั้งหมด 65 รายการ ที่เราได้พัฒนาและคิดค้นรสชาติและรูปแบบขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็ได้รับการ ตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยทางร้านมีบริการจัดเลี้ยง คอฟฟี่เบรค และส่งให้ฟรีตามงานต่างๆ ด้วย แต่ต้องสั่งตามจำนวน และระยะทางที่ทางร้านได้กำหนด ซึ่งก็มีหลายครั้งในช่วงเทศกาลที่ออร์เดอร์เข้ามาเยอะ ทำให้บางครั้งลูกค้าก็ไม่ได้ขนมตามที่สั่ง ซึ่งทางร้านก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จะมีการพิมพ์จดหมายขอโทษในความล่าช้าพร้อมด้วยขนมอีก 1 กล่อง ซึ่งก็เป็นกลยุทธ์หนึ่งของ ทางร้านที่ต้องการแสดงความเสียใจจากใจจริง”
ทำธุรกิจแบบกึ่งแฟรนไชส์
สำหรับ “ร้านขนม” ไม่มีแนวคิดที่จะขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ เพียงเพราะเหตุผลการควบคุมคุณภาพ และมาตรฐาน ที่กลัวจะดูแลได้ไม่ทั่วถึง ซึ่งจะส่งผลให้แบรนด์ “ร้านขนม” ที่สั่งสมมากกว่า 10 ปี สูญสลายไป ดังนั้นคุณเจี๊ยบ จึงขยายธุรกิจ ในแบบกึ่งแฟรนไชส์ ที่เป็นการรับไปจำหน่ายหรือรับโด (แป้งพายสำเร็จรูป) เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำถ้วยที่เป็น แป้งพาย ไปใส่หน้าต่างๆ ตามต้องการได้ ทั้งหน้าแบบไทยและแบบฝรั่งตามแต่ที่ผู้ประกอบการจะสามารถนำไปดัดแปลงได้ ซึ่งตรงจุดนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของผู้ที่กำลังคิดที่จะมีร้านเบเกอรี่เป็นของตัวเอง แต่มีเงินทุนไม่สูงมากนัก ส่วนการรับไปจำหน่าย ทางร้านจะช่วยดูทำเล เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าจำหน่ายขนมทับทำเลเดียวกัน ซึ่งในปัจจุบันลูกค้าที่รับไปจำหน่ายจะตั้งคิออส ตามห้างสรรพสินค้า เช่น ที่เดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน, บางกะปิ, รามคำแหง, ดิ เอ็มโพเรี่ยม และท็อป เวิร์ดเทรด เป็นต้น ส่วนร้านที่ขายเองคือที่ หมู่บ้านสัมมากร ซ.รามคำแหง 110, แฟชั่นไอซ์แลนด์, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และเจ๊เล้งพลาซ่า
ส่งพาย 65 ชนิดยึดตลาดขนมย่อส่วน
ปัจจุบันขนมประเภทพายของ “ร้านขนม” มีทั้งหมด 65 ชนิด ราคาชิ้นละ 9 บาททุกชนิด ซึ่งได้มีการพัฒนารสชาติและรูปแบบ ขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ตัวชูโรงที่ขายดีคงหนีไม่พ้น ค๊อกเทลกุ้ง ค๊อกเทลทูน่า และพายบลูเบอรี่ ซึ่งขนาดของขนมจะเป็นขนมย่อส่วน โดยที่ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง เพราะลูกค้าติดในขนาดของขนมที่มีขนาดพอดีคำแล้ว ซึ่งคาดว่าต่อไปแนวโน้มของขนมจะมีขนาด เล็กลงเรื่อยๆ ตามพฤติกรรมของผู้บริโภค แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับคุณภาพที่ใส่ลงไปในตัวขนมว่าจะมีมากน้อยเพียง ซึ่งตรงจุดนี้จะเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการร้านเบเกอรี่ควรที่จะต้องคำนึงถึง
“ขนาดของขนมของทางร้านสาเหตุที่มีขนาดพอดีคำ เพราะเราเอาความชอบทานขนมของตัวเองที่เป็นที่ตั้ง ซึ่งถึงแม้ขนมจะมี ขนาดใหญ่ แต่เมื่อกัดเข้าไปแล้ว เจอแต่แป้งไม่เจอไส้สักที ดังนั้นคุณค่าของขนมก็จะเท่ากับขนมขนาดเล็กที่เราทำขึ้น ซึ่งแนว คิดที่จะพัฒนารูปแบบของขนมให้มีขนาดใหญ่ทาง “ร้านขนม” ไม่มีแนวคิดนั้น เนื่องจากเชื่อว่าที่ผ่านมาลูกค้าพอใจในขนาด ของขนมและรสชาติแล้ว แต่คงจะไม่หลุดคอนเซ็ปท์เดิมคือ พาย เพราะเป็นขนมที่มีอัตราการซื้อสูงกว่าขนมเค้กหรือขนมปังทั่วๆ ไป” แม้ธุรกิจของธุรกิจเบเกอรี่จะมีการแข่งขันที่สูง แต่ผู้ประกอบการที่จะสามารถยืนหยัดอยู่ในเส้นทางสายนี้ได้ ควรที่จะต้องคำนึง ถึงคุณภาพ การบริการ และการเอาใจใส่ในทุกรายละเอียดของขนม เพราะสินค้าประเภทนี้จะขายตัวมันเอง หากผู้ประกอบการขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วละก็ ผู้ที่ให้คำตอบของอนาคตของร้านคุณได้ดีก็คือลูกค้าที่จะค่อยๆ หดหายไปนั่นเอง
***สนใจติดต่อโทร 0-2729-4277, 0-2729-4278, 0-1842-8744***
|